top of page
oatindy7

เทรดแบบ All in ให้รวยไปเลยดีไหม?

ช่วงนี้กระแสการเทรด forex แบบรวยเร็วกำลังมาแรง มีโค้ชที่สอนการเทรดบางคน แนะนำให้ All in ไปเลย ไม่ว่าจะเทรดคู่เงิน หรือเทรดทอง ถ้าถูกติดๆกัน 5 ครั้ง คุณก็จะได้กำไรมหาศาลถึง 17 ล้าน แบบไม่สนว่าจะเสี่ยงขนาดไหน เล่นแบบไม่รวยก็ครวยไปเลยนั่นแหละ


แต่การเทรดแบบนี้ บอกได้เลยว่าโอกาสหมดตัวสูงมากๆ เพราะในตลาดที่มีความผันผวนสูงๆอย่าง forex การจะเทรดให้ Winrate สูงขนาดนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ไม่ต่างจากการเล่นพนันเลย




ทำไมเราถึงไม่ควร All in ในตลาด forex มาฟังกัน!!


หลักของการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมในสูตรของเคลลี่ (Kelly Formula) นักเก็งกำไรตัวฉกาจ กล่าวไว้ว่า สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้กำไรสูงที่สุด คำนวณจาก

P-(1-P)/B โดย P คือ win rate ของระบบ และ B คือ Reward เฉลี่ยที่เราได้จากระบบ เช่น 1เท่า หรือ 2 เท่า




ตัวอย่างเช่น

P = 65%

B = 1R

การลงทุนที่เหมาะสม= 0.65-(1-0.65)/1 หรือเท่ากับ 0.30 นั่นหมายความว่า หากเทรดเดอร์ลงทุนมากกว่า 30% ของพอร์ท อัตราส่วนผลตอบแทนจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ และ หากลงทุนในระดับ 2 เท่าของค่าที่เหมาะสม (หรือ 60% จากตัวอย่าง) จะทำให้พอร์ทติดลบ!!! จากตาราง excel จะเห็นว่าที่ระดับการลงทุนเกิน 30% ของพอร์ท ผลตอบแทนทางด้านขวาสุดจะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเทรดเดอร์ลงทุนเกิน 30% ของพอร์ท


ยังไม่ได้พูดถึงระดับความผันผวนของพอร์ทที่มี Volatility สวนทางกับระดับผลตอบแทนของ Kelly Chart ยิ่งเทรดเดอร์ลงทุนมากเกินค่าที่เหมาะสม พอร์ทจะยิ่งมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นแบบ exponential

ฉะนั้นระดับการลงทุนที่เหมาะสมควรอยู่ในช่วงของ A Phase หรือ B Phase หากเกินไปกว่านี้ในระยะยาวพอร์ทจะกลับมาลำบาก


A phase คือระดับการลงทุน แบบ Half Kelly คือ 50% ของระดับการลงทุนที่เหมาะสม ในช่วงนี้พอร์ทจะเติบโต แบบ conservative

B phase คือช่วงที่เลย Half Kelly จนมาถึงระดับที่เหมาะสม (Full Kelly) ช่วงนี้พอร์ทจะโตแบบ aggressive และทีั้ง 2 ช่วง ความผันผวนของพอร์ทยังไม่ได้มีมากนัก หากผิดทางโดน SL ก็ยังสามารถนำกลับมาได้

ฉะนั้นในทางสถิติและหลักคณิตศาสตร์เป็นไปไม่ได้เลยที่การ All in จะทำให้พอร์ทเติบโต สิ่งสำคัญคือต้องบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้เหมาะสม จะดีที่สุดครับ


ที่มา : เพจเทรดอย่างโปร

4 views0 comments
Anchor 1
bottom of page