Chart patterns คือ รูปแบบกราฟที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาด forex โดยใช้ข้อมูลราคาในอดีต เพื่อคาดการณ์แนวโน้ม ว่าจะมีการการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไรต่อไปในอนาคต หลายๆครั้งการเครื่อนไหวของราคา มักจะมีรูปแบบซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จากกราฟราคาในอดีต ฉะนั้นการศึกษาเรื่อง Chart patterns จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเทรดไปในทิศทางใด
Symmetrical Triangle
เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่สมดุลกัน ลักษณะจะลากเอียงขาขึ้นและขาลงได้เอียงพอๆกัน ในกรอบสามเหลี่ยมนั้นจะเห็นว่าเปิดกว้างแล้วค่อยๆ เล็กลงจนทํามุมเป็นสามเหลี่ยม เป็นการเล่นราคากันระหว่างแรงซื้อและแรงขายที่ค่อยๆ บีบตัวจนเกิดรูปแบบดังกล่าว จนกว่าการบีบตัวในกรอบสามเหลี่ยมแคบลงโอกาสที่จะเกิดการระเบิดของราคาก็ยิ่งสูงขึ้น เมื่อทะลุกรอบสามเหลี่ยมได้ (break out) กราฟก็จะกลับมาวิ่งแรงอีกครั้ง อธิบายแบบง่ายๆ คือ รอให้ราคาซื้อราคาขายวิ่งในกรอบสามเหลี่ยมจากกว้างแล้วบีบตัวไปแคบ ทะลุได้เมื่อไหร่แล้วค่อยพิจารณาซื้อขาย (การทะลุได้ คือการระเบิดที่เกิดจากการบีบตัวของราคาซื้อราคาขายนั่นเอง)
DESCENDING TRIANGLE
ขาลง เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่สามารถลาก Trendline ได้เทรนขาลงหนึ่งเส้นแล้วลากเส้นตรงในแนวนอนได้อีกหนึ่งเส้น เมืÉอลากสองเส้นนี้ได้แล้วก็คือกรอบสามเหลี่ยมของขาลง (descending triangle downtrend) จากในรูปจะสังเกตุเห็นว่าเมื่อลากกรอบสามเหลี่ยมขาลงได้แล้วจะมีการบีบตัวในกรอบยิ่งแคบมากโอกาสที่จะระเบิดตัวของราคาลงต่อยิ่งมีโอกาสสูงมากขึ้น
ส่วนในกรอบสามเหลี่ยมขาลงนั้น จะสังเกตุเห็นของการลากเส้นตรง บางครั้งอาจจะการเกิด double bottom or triple bottom (false) หลอกเกิดขึ้นแล้วราคาดีดตัวลงไปต่อ จะเห็นว่าไม่ว่ารูปแบบและระบบอะไรก็ตามมักมีหลอกให้เห็นเสมอ ๆ เราควรใช้เครื่องมือกรองกราฟหลายๆชั้น เพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุด และผิดทางต้องกล้าที่จะ stop loss
ASCENDING TRIANGLE
ขาขึ้น เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่สามารถลาก Trendline ได้เทรนขาขึ้นหนึ่งเส้นแล้วลากเส้นตรงในแนวนอน (ด้านบน) ได้อีกหนึ่งเส้น เมื่อลากสองเส้นนี้ได้แล้วก็คือกรอบสามเหลี่ยมของขาขึ้น(ascending triangle uptrend) จากในรูปจะสังเกตุเห็นว่าเมื่อลากกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นได้แล้วจะมีการบีบตัว ในกรอบยิ่งแคบมากโอกาสที่จะระเบิดตัวของราคาขึ้นต่อยิ่งมีโอกาสสูงมากขึ้น ส่วนในกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นนั้น จะสังเกตุเห็นของการลากเส้นตรง บางครั้งอาจจะการเกิด double top or triple top (false) หลอกเกิดขึ้น แล้วราคาดีดตัวขึ้นไปต่อได้
รูปแบบ WEDGES มีด้วยกัน 2 แบบคือ FALLING WEDGES (เกิด bullish)
แบ่งได้อีกสองรูปแบบคือ ในช่วงการเกิดของ
ขาขึ้นและขาลง RISING WEDGES (เกิด bearish)
แบ่งได้อีกสองรูปแบบคือ ในช่วงการเกิดของขาขึ้นและขาลง
รูปแบบ RECTANGLES มีรูปแบบด้วยกัน 2 แบบ คือ
RECTANGLE UPTREND (เกิด bullish) เป็นรูปแบบเส้นขนานกันสองเส้น ในแนวโน้มขาขึ้น(ช่วงพักตัว)เมื่อลากกรอบ เส้นขนานได้แล้วหลุดกรอบได้เกิด break out แล้วขึ้นต่อ
RECTANGLE DOWNTREND (เกิด bearish) เป็นรูปแบบเส้นขนานกันสองเส้นในแนวโน้มขาลง (ช่วงพักตัว) เมื่อลากกรอบเส้นขนานได้แล้วหลุดกรอบได้เกิด break out แล้วลงต่อ
รูปแบบ FLAGS AND PENNANTS
รูปแบบ FLAGS จะเป็นรูปแบบ ธง (ขนานด้านข้าง) จะเกิดช่วงพักตัวของแนวโน้ม
มี 2 แบบคือ
• ขาขึ้น (uptrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูปธง (แบบขนานด้านข้าง) ทะลุขึ้นไปได้เรียกว่า break out วิ่งขึ้นไปต่อ
• ขาลง (downtrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธง(แบบขนานด้านข้าง) ทะลุลงไปได้เรียกว่า break out วิ่งลงไปต่อ
รูปแบบ PENNANTS จะเป็นรูปแบบ ธงสามเหลี่ยม จะเกิดช่วงพักตัวของแนวโน้ม
มี 2 แบบคือ
• ขาขึ้น (uptrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธงสามเหลี่ยม ทะลุขึ้นไปได้ เรียกว่า break out วิ่งขึ้นไปต่อ
• ขาลง (downtrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธงสามเหลี่ยม ทะลุลงไปได้เรียกว่า break out วิ่งลงไปต่อ
รูปแบบ HEAD AND SHOULDERS
Head and shoulders pattern นั้นจะมี หัวและไหล่ (ด้านซ้ายและขวา) จะมี head and shoulders ของขาขึ้น และ ขาลง
ส่วนใหญ่จะเรียก head and shoulders ขาขึ้นว่า หัวตั้ง (ด้านบน) เมื่อเกิดแบบนี้แล้วจะเป็นการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงแรงๆ เสมอ ลักษณะนี้จะมี หัวอยู่บนสุด และไหล่ทั้งซ้ายและขวาต้องไม่สูงกว่าหัว ถึงจะเรียกว่า head and shoulders (หัวตั้งด้านบน) เมื่อเกิดแล้วต้องสามารถลากเส้น neckline ได้เพื่อ confirm การลง
ส่วน head and shoulders ขาลง เรียกว่าหัวกลับ(ด้านล่าง) เมื่อเกิดแบบนี้แล้วจะเป็นการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นแรงๆเสมอ ลักษณะนี้จะมี หัวอยู่ล่างสุด และไหล่ทั้งซ้ายและขวาต้องไม่สูงกว่าหัว ถึงจะเรียกว่า head and shoulders(หัวกลับด้านล่าง)
เมื่อเกิดแล้วต้องสามารถลากเส้น neckline ได้เพื่อ confirm การขึ้นที่สําคัญ หัวต้องอยู่สุงและตํ่ากว่าไหล่เสมอๆ ไม่ว่าจะมีไหล่ขวากี่ครั้ง ไหล่ซ้ายกี่ครั้ง แต่หัวต้องสูงกว่า และตํ่ากว่าเสมอ ๆ ถึงจะเรียกว่า head and shoulders ของขาขึ้น ขาลงนั้นๆ